ร้านซักไม่เคยบอก เสื้อผ้าคราบหนา รอยเหลือง วิธีซักให้ขาวง่ายมาก
คราบต่างๆบนเสื้อผ้าเป็นเรื่องน่าหนักใจนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคราบเหลือง คราบหมึก คราบอาหาร หรือคราบหนาฝังแน่นที่ซักไม่ออก
บางครั้งก็อาจถึงกับต้องทิ้งกันไปเลย เพราะใส่ไม่ได้แล้ว จริงๆมีวิธีที่จะสามารถเอาคราบเหล่านี้ออกได้ง่ายๆนะคะ เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีวิธีไหนบ้าง
1 กำจัดด้วยแชมพูหรือน้ำย าล้างจาน
แค่เพียงเรานำแชมพู หรือน้ำย าล้างจาน มาป้ายลงไปบนเสื้อผ้าที่เป็นคราบเหลืองหรือรอยคราบฝังลึก ทิ้งเอาไว้ 30 นาที
แล้วนำไปซักออกตามปกติ เพียงเท่านี้คราบสกปรกที่เรานำแชมพูหรือน้ำย าล้างจานมาป้ายเอาไว้ ก็จะหายไปทิ้งไว้เพียงความสะอาดที่ปราศจากร่องร่อยสกปรกอีกต่อไป
2 กำจัดด้วยน้ำส้มสายชูกับน้ำย าล้างจาน
ก่อนอื่นให้นำน้ำส้มสายชูมาราดลงบนคราบที่สกปรกหรือคราบที่ไม่พึงประสงค์บนเนื้อผ้า ทิ้งเอาไว้ 10 นาที หลังจากนั้น
ใช้น้ำย าล้างจานนำมาหยดบนรอยเปื้อนซ้ำอีก 2-3 หยด แล้วค่อยๆใช้นิ้วมือค่อยถูไปยังบริเวณคราบต่างๆเบาๆ
ทำอย่ างนี้อีก 5 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น ตรงขั้นตอนนี้อาจจะใช้สบู่เข้ามาขัดช่วยด้วยก็ได้
3 กำจัดคราบหมึกด้วยนมเปรี้ยว
ขั้นตอนแรกให้นำผ้าที่เลอะคราบหมึกลงแช่ในน้ำนมเปรี้ยวเป็นเวลา 24 ชั่ วโมง จากนั้นนำสบู่เข้ามาช่วยขจัดคราบ ซักด้วยน้ำเย็นที่ไหลผ่ าน ใช่สบู่เน้นย้ำไปตรงรอยคราบหมึก จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำเย็น หากคราบยังไม่หายไป ให้ทำตามขั้นตอนนี้ตั้งแต่ต้น
4 กำจัดคราบเหลืองด้วยมะนาว
วิธีนี้เราจะใช้น้ำมะนาวและน้ำสะอาดมาผสมในอัตราส่วนที่เท่ากัน จากนั้นนำเสื้อที่มีคราบเหลืองลงไปแช่ทิ้งไว้ เมื่อแช่ได้เวลาพอประมาณแล้ว ก็นำเสื้อนั้นมาซักตามวิธีปกติ คราบเหลืองจะหลุดออกไป โดยไม่ต้องเสียแรงมากเลย
5 กำจัดคราบด้วยน้ำเกลือ
ง่ายๆเลยเราจะใช้เกลือ 1 ช้อนชาพูนๆ มาละลายเข้ากับน้ำร้อน เมื่อเกลือละลายเข้ากับน้ำร้อนดีแล้ว ก็นำไปราดลงบนผ้าบริเวณที่เป็นคราบเหลืองทิ้งไว้สักครู่ แล้วนำไปซักได้ตามปกติ ก็สามารถกำจัดรอยคราบเหลืองนั้นได้แล้ว
6 กำจัดรอยชอล์คเขียนผ้า
เพียงนำผ้าที่มีรอยเปื้อนของชอล์คเขียนผ้า เอาไปแช่น้ำสบู่หรือจะผสมผงซักฟอกลงไปด้วยก็ได้ แช่ทิ้งไว้สักพักก็นำเสื้อดังกล่าวมาขยี้เอาตรงที่เปื้อนชอล์คออกให้หมด หากยังไม่ออก ก็ให้โรยผงซักฟอกทิ้งไว้บนรอยชอล์คนั้น แล้วค่อยนำมาซักใหม่
7 กำจัดด้วยน้ำส้มสายชู
วิธีนี้เป็นการซักเพื่อป้องกันสีตกในการซักครั้งแรก ก่อนอื่นเราก็คัดผ้าขนห นูที่มีเฉดสีคล้ายๆกันนำไปแช่น้ำอุ่นซักพัก แล้วนำไปซักกับผงซักฟอกตามปกติ แต่ในระหว่างขั้นตอนการล้าง เราจะเพิ่มน้ำส้มสายชูลงไปในน้ำ 1 ถ้วยลงไปในน้ำด้วย น้ำส้มสายชูจะช่วยทำให้ผ้าสีไม่ตกและกำจัดคราบผงซักฟอกไปให้หมดด้วย
8 สะบัดผ้า ข น ห นูก่อนเอาไปอบแห้ง
เมื่อเราซักผ้าเสร็จแล้ว ก่อนที่เราจะนำผ้าขนห นูไปอบแห้งให้เราทำการสะบัดผ้าขนห นูก่อน เพื่อเวลาเอาไปอบแห้งนั้น ผ้าขนห นูจะได้ไม่ม้วนตัวเป็นเกลียว กลายเป็นลูกบอกอยู่ในเครื่องอบผ้า เพราะจะทำให้ผ้าขนห นูแห้งช้า และการสะบัดผ้านั้นจะทำให้ผ้าขนห นูฟู และนุ่มขึ้น
9 อ ย่ าใช้ผงซักฟอกมากเกินไป
หลายคนคิดว่ายิ่งใส่ผงซักฟอกยิ่งสะอาดดี ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะจริงๆแล้วหากผงซักฟอกมีจำนวนฟองมากยิ่งทำให้ฝุ่นหรือคราบสกปรกเข้าไปจับตัวกันอยู่ได้ง่าย แถมยังมีคราบผงซักฟอกเป็นริ้วขายๆตอนเสื้อแห้งอีกด้วย เลยต้องนำกลับมาซักใหม่ เสียทั้งเวลา เปลืองอุปกรณ์การซักเพิ่มอีกด้วย
10 น้ำมะนาวช่วยให้ผ้าสีขาวสดใส
มะนาวนั้นจัดได้ว่าเป็นส ารฟอกขาวที่ดีมาก ด้วยฤทธิ์ของกรดในมะนาวนั่นเอง วิธีใช้น้ำมะนาวก็ง่ายๆ เพียงเพิ่มน้ำมะนาวลงไป 1 ถ้วยในขั้นตอนการซัก ใส่ไปพร้อมผงซักฟอกเลย แล้วก็เริ่มการซักตามปกติ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ผ้าที่ขาวเหมือนใหม่ และยังมีกลิ่นหอมของมะนาวอีกด้วย
11 อุณภูมิของน้ำก็มีส่วนเกี่ยวข้อง
หากเราสามารถกำหนดอุณภูมิของน้ำที่ใช้ซักผ้าได้ตามเนื้อผ้าที่เราจะซักได้ละก็ จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการทำความสะอาดเนื้อผ้าได้โดยง่ายเลย
เช่น น้ำเย็นให้ซักกับผ้าเนื้อบาง หรือผ้าที่มีการหดตัวได้ง่าย น้ำอุ่นเหมาะกับผ้าที่มีความสกปรกปานกลาง
และน้ำร้อนเหมาะสำหรับเสื้อผ้าที่มีคราบสกปรกมาก โดยเฉพาะอย่ างยิ่งเสื้อผ้าที่มีสีขาว
เมื่อเราซักผ้าขาวสดใสได้ดีแล้ว ก็อย่ าลืมนำผ้าไปตากในที่ๆมีแสงแดดจัดๆเพื่อเป็นการ ฆ่ า เ ชื้ อ โ ร ค
และทำให้เสื้อผ้าที่นำไปตากนั้นปราศจากกลิ่นอับ และยังช่วยให้รอยเปื้อนเจือจางลงได้อีกด้วย
ขอขอบคุณที่มา feedsod
